รีวิวแบบบ้านๆ กับ Amazon Kindle 2 (ภาค 1 เชยชมรูปลักษณ์ภายนอก)

     สวัสดีกันอีกครั้งครับ กับซีรียส์รีวิวแบบบ้านๆ :P วันนี้เอาใจคนรักการอ่านด้วยการรีวิวอุปกรณ์ eBook Reader ของค่าย Amazon ที่ชื่อว่า Kindle 2 กันครับ

     ผมเชื่อว่าหลายๆคนที่หลงเข้ามาอ่านบทความนี้ คงจะเป็นคนรักการอ่านเป็นแน่แท้ และหลายๆคนคงจะเจอปัญหาว่าอ่านหนังสือบนหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ จะปวดตา หรือปวดหัว เนื่องจากแสงสว่างจ้า ของจอนั่นเอง จึงมีผู้คิดค้นเทคโนโลยี e-Ink และ e-Paper ขึ้นมา ให้สามารถแสดงผลเหมือนน้ำหมึก ที่เขียนลงบนแผ่นกระดาษนั่นเอง รายละเอียดก็ไป Google กันต่อได้นะครับ

     สำหรับ Kindle เอง ก็เป็นผลิตภัณฑ์ของ Amazon ที่เอาเทคโนโลยีทั้งสองมาใช้ ดังนั้นคงหมดคำถามนะครับว่า "ทำไมไม่ซื้อ IPAD" เพราะว่าเทคโนโลยี และวัตถุประสงค์การใช้งาน ต่างกันโดยสิ้นเชิงนั่นเอง

     การสั่งซื้อจาก Amazon นั้นง่ายนิดเดียว เพียงผูกบัญชีเข้ากับ บัญชีของ Paypal (ใครที่ชอบซื้อของจาก ebay จะรู้จักดี) สำหรับรุ่นที่ผมซื้อมี เป็นรุ่น Kindle 2 ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน ก็มี Kindle 3 ซึ่งถูกกว่า พอสั่งไป ไม่กี่วัน ก็ได้รับของแล้ว รวดเร็วมาก

หีบห่ออย่างดี จัดส่งรวดเร็ว

     เปิดกล่องมา ก็แน่นอน ต้องมีตัว Kindle 2 นอนแอ้งแม้ง อยู่อย่างสงบ ข้างกายก็จะมีสาย USB พร้อมหัวแปลง ติดมาให้ด้วย

มี Logo Amazon ดูไฮโซขึ้นเป็นกอง

     แต่ไม่มีสมุคคู่มือมาให้ครับ!!! มีเพียงกระดาษแนะนำแผ่นเล็กๆมาให้ บอกว่า วิธีใช้ได้อยู่ใน Kindle แล้ว ให้เปิดอ่านจากในนั้นเลย โอ้ว...ผมอุทานเบาๆ ในใจ ก็ตรูยังไม่เคยใช้นี่ ตรูอยากรู้วิธีใช้ ถ้าตรูเปิดอ่านเอกสารข้างในได้ ตรูจะหาคู่มือทำไม :D

     ทรวดทรงของ Kindle 2 นั้น เพรียวบางมากมาย ราวกับว่ามันเป็นแค่แผ่นรองเมาส์  แต่มันคือเครื่องอ่านหนังสือ ที่มีหน้าจอขาวดำ ขนาด 6 นิ้ว มีแผงปุ่มอยู่ด้านล่าง มีปุ่ม Navigate อยู่ด้านข้าง

ครั้งแรก จะมีแผ่นพลาสติกใส ปิดหน้าจอมาให้

     ข้างบน มีปุ่มสไลด์ ไว้ Lock กับ Unlock เพียงแค่เลื่อนสไลด์ไป ก็จะสลับไปเป็นรูปสวยๆ (ส่วนใหญ๋เป็นรูปนักเขียนที่มีชื่อเสียง) กับหน้าจอที่เราใช้งาน

ปุ่มสไลด์ อยู่ข้างๆกับ แจ๊คหูฟังขนาด 3.5 มิล

     ข้างขวา มีปุ่ม +/- ระดับเสียงครับ !!! ใช่ครับ มันคือปุ่ม เพิ่ม หรือลด ระดับความดังของเสียง ถึงตรงนี้ หลายคนก็คงคิดว่ามันต้องเล่น Multimedia ได้แน่ๆเลย ถ้าดูหนัง ก็จะกลายเป็นดูหนังขาวดำแน่ๆเลย ช่าง Retro เสียไม่มี แต่เดี๋ยวก่อนครับ ไว้เรามาดูกันทีหลัง

บางจริงๆ ถือๆอยู่ ก็กลัวจะหลุดมือ

     ด้านล่าง จะมีพอร์ต USB ไว้ Transfer data กับไว้ชาร์จไฟ เหมือนโทรศัพท์มือถือ

     สำหรับรีวิวการใช้งาน จะนำเสนอใน บทความถัดไป นะครับ ติดตามตอนต่อไปครับ ขอบคุณที่ยอมอ่านถึงบรรทัดนี้ครับ